* ท่านพุทธทาสภิกขุ
มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป นี้เป็นมนต์ บทใหญ่ ใช้เมื่อ “ได้”
ซึ่งลาภยศ สรรเสริญ สุขใจกาย ไม่เมามาย ลืมตัว หรืองัวเงีย
มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป ก็เป็นมนต์ บนใหญ่ ใช้เมื่อ “เสีย”
ซึ่งลาภยศ สรรเสริญ แม้ลูกเมีย ไม่อ่อนเปลี้ย สับสน หรือวุ่นวาย
มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป ก็เป็นมนต์ บนใหญ่ ครั้ง “สุดท้าย”
เป็นอาวุธ สัประยุทธ์ กับความตาย แสนสบาย เพราะก้าวล่วง จากบ่วงมาร
**อีกหนึ่งบท
อันความจริง ตัวกู มันไม่มี
แต่พอเผลอ มันเป็นผี โผล่มาได้
พอหายเผลอ ตัวกู ก็หายไป
หมดตัวกู เสียได้ เป็นเรื่องดี
สหายเอ๋ย จงถอน ซึ่งตัวกู
และถอนทั้ง ตัวสู อย่างเต็มที่
มีกันแต่ ปัญญา และปรานี
หน้าที่ใคร ทำให้ดี เท่านี้เอยฯ
***อีกหนึ่งบทค่ะ
ปิด ปิด ตา อย่าสอดส่าย ให้เกินเหตุ
บางประเภท แกล้งทำบอด ยอดกุศล
มัวสอดรู้ สอดเห็น จะเป็นคน
เอาไฟลน ตนไป จนใหม้พอง
ปิด ปิด หู อย่าให้แส่ ไปฟังเรื่อง
ที่เป็นเครื่อง กวนใจ ให้หม่นหมอง
หรือเร้าใจ ให้ฟุ้งซ่าน พาลลำพอง
ผิดทำนอง คนฉลาด อนาถใจ
ปิด ปิด ปาก อย่าพูดมาก เกินจำเป็น
จะเป็นคน ปากเหม็น เขาคลื่นใส้
ต้องเกิดเรื่อง เยิ่นเย้อ เสมอไป
ถ้าหุบปาก มากไว้ ได้แท่งทอง ฯ
ใส่ความเห็น